9.10.52

โน้ส อุดม อุดม แต้พานิช หรือ โน้ส

โน้ส อุดม อุดม แต้พานิช หรือ โน้ส
โน้ส อุดม (อุดม แต้พานิช) หรือ โน้ส อุดม
รณชัย สิงห์คำ
Positioning Magazine พฤศจิกายน 2551

ผู้ชาย หน้าตาธรรมดา มีจมูกรูปชมพู่เป็นสัญลักษณ์ แสดงถึงลักษณะเฉพาะตัว ด้วยความเป็นตัวของตัวเอง และการสั่งสมประสบการณ์ตลอดระยะเวลา 10 ปี ทำให้สามารถนำสิ่งที่ถ่ายทอดสร้างมูลค่าเพิ่มในรูปแบบของ Stand up Comedy หรือ “เดี่ยวไมโครโฟน” สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ล่าสุดกับเดี่ยว 7 ถึง 44 รอบการแสดง ส่งผลให้ “โน้ส” อุดม แต้พานิช เรียกได้ว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลอีกคนหนึ่งของสังคมไทย ที่ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ส่งผลให้เขาประสบความสำเร็จและเป็นที่น่าจับตามอง

จุดเริ่มต้น ของ อุดม มาจากการเข้าวงการบันเทิงเมื่อปี พ.ศ. 2536 เป็น 1 ใน 5 เสนารายการยุทธการขยับเหงือก ซึ่งเป็นรายการ Comedian Show ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของช่อง 5 ในยุคนั้น

จึงทำให้ อุดมได้แจ้งเกิดในวงการบันเทิงอย่าง เต็มตัวในชื่อ “เสนาโน้ส” หลังจากนั้น ตัดสินใจแยกตัวออกมาจากรายการยุทธการขยับเหงือก และได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นในเมืองไทย คือ การพูดตลกคนเดียวบนเวที ทำให้คนไทยได้รู้จักคำว่า Stand up Comedy หรือ “เดี่ยวไมโครโฟน” เป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2538

จากปรากฏการณ์ครั้งนั้นทำให้การ แสดงเดี่ยวไมโครโฟนไม่หยุดเพียงครั้งเดียว ทำให้มีกระแสเดี่ยวไปทั่วเมือง ส่งผลให้เขาได้กลายเป็น “ตลกเดี่ยว” ชั้นแนวหน้าของประเทศ เป็นโชว์คนเดียวกับไมค์ ซึ่งมีคนรอซื้อบัตรและเข้าชมเป็นจำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่ลูกเล็กเด็กแดงไปจนถึงอากง อาม่า ถึงกับต้องเปิดการแสดงติดต่อกันมากทุกครั้ง จะเห็นได้ว่าในเมืองไทยนอกจาก เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ แล้วก็มีแต่ “โน้ส อุดม” นี่แหละที่ทำได้ขนาดนี้

ด้วย Positioning ของอุดม แต้พานิช ทำให้คนไทยส่วนใหญ่จะรู้จักเขา ในนามของนักแสดงตลกเดี่ยวไมโครโฟน ที่ประสบความสำเร็จตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา แต่น้อยคนนักจะรู้จักว่าโลกส่วนตัวที่เหลือของเขา จะจมจ่อมอยู่ในโลกของศิลปะล้วนๆ ที่เขาอุทิศชีวิตล่างเวทีอยู่กับการวาด หากเขาอยู่ในสถานที่ๆ ไม่มีเฟรมหรือสี อุดมก็จะวาดลายเส้นอย่างไม่หยุดมือ อยู่ในไดอะรี่เล็กๆ ที่มักพกพาไปไหนต่อไหนด้วยเสมอ

จึงทำให้ช่วง เดือนที่ผ่านมา ทีม Positioning ได้สนทนากับเขาในนิทรรศการที่มีชื่อว่า “ขี้เหร่เนะ” ซึ่งเป็นการแสดงศิลปะแบบ “อุดม แต้พานิช” และศิลปินชาวญี่ปุ่น “คิน ชิโอตานิ” สองศิลปินอารมณ์ดี มีสไตล์การวาดภาพที่ทำให้รู้สึกสบายๆ และเต็มไปด้วยอารมณ์ขันของทั้งสองอย่างคล้ายคลึงกัน

หัวข้อของการ สนทนาวันนั้นเชื่อมโยงกับ Business ซึ่งเป็นอีกมุมมองหนึ่งของเขาที่เขาไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ ทำให้เขาออกตัวก่อนว่า ไม่มีประสบการณ์และไม่ความรู้เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจ แต่สิ่งที่เขากำลังทำในขณะนี้ ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่ามันคือ“Business” เพราะเขาเองก็มีบริษัท พอดี พานิช จำกัด ที่จะจดทะเบียนด้วยเงิน 5 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2539 ที่ผ่านมา

ถ้าให้โน้ส เป็นสินค้าตัวหนึ่ง
ตายแล้วผมไม่รู้ ไม่เคยมองตัวเองเป็นสินค้า เพราะเวลาทำงานไม่ได้วางตำแหน่งว่าตนเองอยู่ที่ไหน ไม่เคยมองถึงกลุ่มเป้าหมาย

ให้วิเคราะห์ถึงจุดขายของโน้ส
นั่นคือเอ็งต้องวิเคราะห์ผม ไม่ใช่ให้ผมวิเคราะห์ตัวเอง “ผมเคยวิเคราะห์ตัวเองด้วยหรือ?”

การทำเดี่ยวมีทีมรีเสิร์ทและหาข้อมูลอย่างไร
ไม่ มีอย่าไปเชื่อ ไม่มีการทำรีเสิร์ทตั้งแต่การทำเดี่ยว 1-7 คิดเอง และมีทีมงานแค่ 4 คนที่คิดเรื่องดีเทลทั้งหมด อยากได้ฉากอย่างไร คือคิดให้เสร็จ จากนั้นก็ไปจ้างคนอื่นเขาทำ

กระบวนการสร้างแบรนด์ โน้ส อุดม
นั่นนะสิ ผมก็ไม่รู้ ไม่รู้เรื่องการบริหารการสร้างแบรนด์ไม่เคยมีการวิเคราะห์ตัวเอง ไม่มี การทำรีเสิร์ท ถ้ามีเรียกว่า “ตอแหล”

แล้ววิธีคิดของ โน้ส อุดม
วิธี คิดของผมคือ ทำที่เราชอบ ที่ชอบๆ เดี๋ยวมันจะดีไปเอง คือ ทำของที่ระลึกที่อยากได้ เช่นกระเป๋า ต้องทำที่เราอยากได้ เล่นเดี่ยวโดยใช้อารมณ์ที่เราอยากดู ทำฉากที่เราอยากเห็น และก็ทำทุกอย่างในสิ่งที่เราอยากได้รับอย่างนั้น

แล้วทำไมสิ่งที่ อุดม ทำถึงเข้าถึงคนได้
มัน ไปโดนอะไรก็ไม่รู้ อันนี้ก็ไม่รู้ เขียนหนังสือก็เหมือนกัน เอานิสัยตัวเองที่ชอบแอบอ่านไดอารี่คนอื่น คือ เขียนในสิ่งที่เราอยากอ่าน มันเสียเวลาที่จะไปทำรีเสิร์ท

แล้วทำไมนักการตลาดชอบ ทำรีเสิร์ท
การ ทำรีเสิร์ท คือการแสดงว่าเรากำลังไปทำในสิ่งที่คนอื่นชอบ ไม่ได้ทำที่เป็นเราจริงๆ เหมือนกับการวาดรูป จะรู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้คนเขาชอบสีอะไร สีอะไรกำลังจะมา ไม่รู้เลย วาดในสิ่งที่เราอยากเห็น เรารู้สึกอย่างไรก็วาดอย่างนั้น

เราวาง Positioning ของตัวเราไว้อย่างไร
ไม่มีจะบ้าหรอ ต้องไปถามแกรมมี่ เขามีกระบวนอย่างนี้ ของผมไม่มีอย่างนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

แล้วตัวโน้ส เป็นอย่างไรกันแน่
มัน เหมือนกับ มีคนบอกว่าก๋วยเตี๋ยวในซอยนี้รสเด็ด ไอ้คนทำก๋วยเตี๋ยวก็ไม่รู้หรอกก็ทำมาชั่วนานตาปีแล้ว สมมุติว่ามี 5 โต๊ะ เขาก็ขายมาแต่ไหนแต่ไรมา 5 โต๊ะแล้ว มีคนมาตามกินกันเอง ก็คือทำที่เราชอบ แล้วสิ่งที่คนอื่นชอบในสิ่งที่เราทำนั้นคือ “ผลพลอยได้”

เคยหวังไว้ก่อนไหมว่าคนจะชอบ
อย่าง ศิลปะ อย่างแรกต้องทำในสิ่งที่เราชอบก่อน ถ้าเขาชอบก็เป็นผลพลอยได้ ถ้าเขาไม่ชอบก็เป็นเรื่องของเขา เอาอย่างนี้ง่ายๆ ถ้าแต่งตัวออกจากบ้าน มีวิธีแต่งตัวสองอย่าง 1.จะใส่เสื้อตัวนี้เพราะผู้หญิงจะต้องชอบแน่ๆ เลย ใส่กางเกงตัวนี้กับรองเท้าซึ่งกำลังฮิต หรือ 2. มีคนบางคนบอกผมใส่ตัวนี้แล้วสบาย แล้วไม่สนด้วยว่าจะอินท์หรือเอาท์ เทรนด์แบบไหน ไม่ได้มองว่าสีอะไรจะมาหรือไม่มา ดูแค่ว่าอะไรมันจะเหมาะกับเราหรือเปล่า “คือผมไม่ได้คิดจากข้างนอกเข้ามา คิดจากข้างในออกไป” ส่วนผลพลอยได้คือเรื่องที่เขายอมรับหรือไม่ก็เป็นเรื่องของเขา ซึ่งทุกวันนี้ถือว่า “โชคดี”

หลักในการทำโชว์เดี่ยวแต่ละครั้ง
อย่าง แรกไม่มีการทำรีเสิร์ท ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวใกล้ตัว เรื่องแม่ แม่เป็นคนที่ตลกจริงๆ ก็เล่าเรื่องแม่ หรือว่าไปทำงานกับใคร ก็เอาเรื่องคนนั้นมาพูด เช่นไอ้ต้อม (ยุทธเลิศ สิปปภาค) มีเรื่องขำๆ ก็เล่าเรื่องมัน กับบอม สินเจริญ มันตลกก็เล่าเรื่องมัน ซึ่งไม่เคยมาแพลนมาก่อนหรอก เรารู้สึกว่ามันตลกเราก็เล่าเรื่องมันแค่นั้นเอง ส่วนเรื่องการพักผ่อนถ้าทำงานครึ่งปี ต้องเที่ยวครึ่งปี เพราะการท่องเที่ยวคือการศึกษานอกโรงเรียน

มีฝ่ายบริหารจัดการไหม
ไม่ มี เพราะเราไม่ทันมัน ถ้าเราไม่รู้อะไรจริงหรือไม่จริง คิดว่าอย่าไปทำมันเลย คนเราเกิดมาทำได้บางอย่างเท่านั้น ยกตัวอย่างป๋าเทพ ซึ่งเป็นตลกขั้นเทพ ทำธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จเพราะอะไร ป๋าเทพอาจจะกลุ้มใจ แต่ผมอยากบอกว่า “คนอย่างป๋าเทพเกิดมาในประเทศไทยมีคนเดียว นักธุรกิจมีเป็นแสนเป็นล้าน” เขาเกิดมาเพื่อสร้างเสียงหัวเราะให้คนไง บางคนเกิดมาเพื่อทำบางอย่าง ไม่ได้ทำในสิ่งนั้นทั้งหมด

แล้ว โน้ส เกิดมาทำอะไร
ผมเกิดมาทำในสิ่งที่ผมชอบ แล้วที่สำคัญสบายใจในสิ่งที่ทำ ไม่ต้องฝืนใจ

แล้วคนอื่นเขาก็ทำในสิ่งที่ชอบแล้วไม่ประสบความสำเร็จเหมือน โน้ส
แสดงว่าทำบุญมาน้อย (หัวเราะ) คนทุกคนมันไม่เหมือนกัน

เดี่ยว 8 มีเมื่อไหร่
เดี่ยวแปด น่าจะปี 2552 ไม่รู้ว่าเดือนไหน ต้องรอสถานการณ์บ้านเมืองให้สงบก่อน (หัวเราะ)

ทั้ง หมดคือเรื่องราวที่เกิดจากการสนทนาของ “อุดม แต้พาณิช” สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราเห็นว่า ถ้าการแสดงเดี่ยวไมโครโฟน คือการออกไปเล่าเรื่อง และใช้การสื่อสารทุกอย่างในร่างกายของเขา เพื่อสร้างความสุขและเสียงหัวเราะให้ผู้ชมแล้ว ส่วนเรื่องราวที่เหลืออยู่ในใจ เขาเลือกการใช้ลายเส้นและสี ระบายมันออกมาอยู่บนเฟรมอันใหญ่ๆ แทน อาจจะเป็นเรื่องราวที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก มันอาจจะเป็นอารมณ์หรือคำพูดที่ยากเกินอธิบายด้วยภาษาหรือท่าทาง แต่ทั้งหมดก็ถูกถอดรหัสให้กลายเป็นงานศิลปะ ในแบบฉบับของ “อุดม แต้พานิช”

และ เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ “อุดม” นั้นมาจากไหน ทำไมเขาทำอะไรจึงมีแต่คนสนใจและติดตามอยู่เสมอ และมีวิธีการสร้างแบรนด์อย่างไร ทีม positioning ได้พูดคุยกับ ภูสิต เพ็ญสิริ กรรมการผู้จัดการของนาโน เซิร์ช และผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด ได้ให้ความคิดเห็นและเสนอคำตอบ

สร้างแบรนด์แบบ “โน้ส”

กระบวน การสร้างแบรนด์ของโน้ส เป็นการสร้างแบรนด์ที่มาถูกทาง โดยการเริ่มสร้างตั้งแต่ Brand Characteristic จากนั้นสามารถพัฒนาเป็น Brand Identity เมื่อถึงจุดนี้แบรนด์มักจะถูกอ้างอิงและนำเข้าไปสู่การถูกใช้ ทำให้เป็นการตลาดที่ชัดเจน และพัฒนาเข้าสู่ Brand Creditability ได้สำเร็จ เมื่อแบรนด์ อุดม มาถึงจุดนี้แล้ว ก็สามารถต่อยอดได้ เพราะแบรนด์มี Identity อยู่ในตัวผู้ฟังแล้ว ทำให้ไม่ว่าแบรนด์นี้จะออกโปรดักส์อะไร ผู้บริโภคจะรอคอยและติดตาม และแบรนด์อุดม เป็นแบรนด์ที่เรียกว่า “ฉลาด” ที่ออกมาถูกจังหวะ ไม่ได้ออกมาบ่อยครั้ง และถูกวางแผนมาอย่างดี เพราะเลือกออกโปรดักส์ในช่วงที่คนอื่นไม่ออก เพราะเขาเชื่อว่าแบรนด์ของเขามี Brand Identity

และเมื่อมีแบรนด์ อุดมแล้ว เขาก็เป็นคนไม่ทำลายแบรนด์ ตามBrand Blue Print ของเขาอย่างเคร่งครัด ที่ไม่ได้รับโฆษณา ละคร ถ่ายแบบ หรือร้องเพลงแบบมั่วๆ ไม่มีกฎเกณฑ์ และเป็นคนที่ไม่ยอมทำลายแบรนด์ของตัวเอง แตกต่างจากศิลปินทั่วไปที่อยากดังแบบฉาบฉวยแต่ก็ไม่ได้ยั่งยืน

ทำให้จังหวะในการออกสินค้าของอุดม นั้นเรียกได้ว่าเป็น “สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ” จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้แบรนด์เขาแข็งแกร่ง
แบรนด์สะท้อนสังคม

การ ที่ผู้บริโภคเลือกในแบรนด์อุดม สะท้อนให้เห็นว่าคนที่มีความรู้เรื่องแบรนด์ ย่อมได้เปรียบคนที่ไม่เข้าใจ ทำให้แบรนด์พัฒนาและสร้าง Brand Value จึงทำให้แบรนด์ตายช้า สามารถทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ

และสามารถสะท้อนได้ในอีกมุมมอง คือสังคมเรามีวิธีคิดและรสนิยมที่ชัดเจน ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจได้อย่างชัดเจน หรือเรียกง่ายว่า “ผู้บริโภคฉลาดขึ้น” ต่างจากในอดีตที่ถูกยัดเหยียดให้บริโภค แต่ปัจจุบันผู้บริโภคฉลาดและสามารถเลือกใช้สินค้าว่า “สินค้าตัวไหนที่เหมาะกับตัวเอง”
ข้อเด่น-ข้อจำกัด

เมื่อพูด ถึงข้อเด่น คือการมีกลุ่มเป้าหมายและแบรนด์ที่ชัดเจน หรือเรียกว่า “Focusing Model” เป็นโมเดลที่ชัดเจนในตัวสินค้า ส่วนข้อจำกัดคือไม่สามารถขยาย Identity ของแบรนด์ได้ เพราะอุดมไม่ใช่เป็นคนของ “มหาชน” เหมือนกับ “ยอดรัก” แต่อุดมเป็นเพียง “บุคคลสาธารณะ” เพียงแต่มีกลุ่มเป้าหมายและมีการสื่อสารระหว่างกันที่ชัดเจนเท่านั้น เพราะยังขาดการทำความดีเพื่อมหาชน และยังทำอะไรโดยใช้ความเป็นตัวของตัวเองอยู่

อุดม แต้พานิช หรือ โน้ต เกิดเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2511 เป็นชาวจังหวัด ชลบุรี ไม่สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยเพาะช่าง แผนกวิชาพาณิชยศิลป์ ใช้ชีวิตและทำงานที่กรุงเทพและเชียงใหม่

จำนวนรอบการแสดงเดี่ยวไมโครโฟน
ครั้งที่ 1 (เดี่ยวไมโครโฟน) เปิดการแสดงทั้งหมด 3 รอบ
ครั้งที่ 2 (อุดม โชว์ห่วย) เปิดการแสดงทั้งหมด 14 รอบ
ครั้งที่ 3 (อุดม การช่าง) เปิดการแสดงทั้งหมด 22 รอบ
ครั้งที่ 4 (เดี่ยว 4) เปิดการแสดงทั้งหมด 28 รอบ
ครั้งที่ 5 (ฉายเดี่ยว) เปิดการแสดงทั้งหมด 30 รอบ
ครั้งที่ 6 (ตูดหมึก) เปิดการแสดงทั้งหมด 43 รอบ
ครั้งที่ 7 (เดี่ยว 7) เปิดการแสดงทั้งหมด 44 รอบ

เปิดหมวกล้วงชีวิต...คิดแบบ โน้ส-อุดม


จากผู้ชายรูปร่างหน้าตาธรรมดา ที่มีจมูกรูปชมพู่โดดเด่น กลายเป็นลักษณะเฉพาะตัว ด้วยความเป็นตัวของตัวเอง บวกกับการสั่งสมประสบการณ์อันชาญฉลาด และนำสิ่งที่ถ่ายทอดสร้างมูลค่าเพิ่มในรูปแบบของทอล์กโชว์ ในชื่อ "เดี่ยวไมโครโฟน" ทำรายได้มหาศาล ส่งพาให้ โน้ส-อุดม แต้พานิช กลายเป็นผู้ทรงอินทธิพลอีกคนหนึ่งของวงการบันเทิง ที่ไม่ว่าจะหยิบจับทำอะไร ก็ดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จ และเป็นที่ถูกจับตามองทุกครั้งไป ตัวตนคนแบบ โน้ส-อุดม คิดว่าตัวเองเป็นคนแปลกหรือเปล่า ผมชอบคิดว่าคนอื่นแปลกมากกว่า เพราะนั่งรถตู้ไปทำงานกับคนที่ไม่รู้จัก มีบางคนคุยโทรศัพท์ในรถ เกลียดก็เกลียดแต่ก็ต้องฟังมัน แล้วพอถึงที่ทำงานต้องรอลิฟต์อีก นี่แหละประหลาด แต่ก็เคยเจอรุ่นน้องมาถามเหมือนกัน ว่าพี่โน้สคิดว่าตัวเองเป็นคนปกติเหรอ ไม่เคยคิดเหรอ ว่าตัวเองประหลาด ปกติผมไม่เคยมองมุมนี้มาก่อนเลย คิดแต่ว่าคนอื่นประหลาดมาตลอด สงสัยเราชินกับตัวเราที่เป็นแบบนี้มั้ง แต่ถ้าวัดจากคนใกล้ๆ ตัว ก็ไม่น่าจะปกตินะ แท้จริงแล้ว โน้ส-อุดมเป็นคนอย่างไร ผมเป็นคนอ่อนไหวง่าย จริงจังกับเรื่องไร้สาระ และรู้ว่าตัวเองชอบอะไร แล้วก็เลือกที่จะใช้ชีวิตแบบที่เราชอบ ซึ่งจริงอยู่มันอาจสูญเสียโอกาสบางอย่าง เราอาจจะไม่มีความมั่นคงทางการเงิน ไม่มีอะไรมาการันตีเงินเดือนในแต่ละเดือน แต่เราก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เราเลือก ผมมีวิธีคิดง่ายๆ คือถ้าอยากมีชีวิตที่อิสระก็อย่าไปเป็นหนี้ ไม่บ้าแฟชั่น ฉะนั้นไม่ว่าปีนี้แฟชั่นอะไรมาก็ทำอะไรผมไม่ได้ ผมก็จะอยู่เชยๆ ของผมแบบนี้แหละ เป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงหรือเปล่า เห็นเขาว่าอย่างนั้นนะ แต่ผมกลับคิดว่าเป็นโลกปกติ เพราะคนทุกคนก็ต้องมีพื้นที่ของตัวเอง แล้วค่อยมีสะพานเชื่อมหากันบ้าง แต่ไม่ต้องมาอยู่แบบเบียดๆ กัน ยอมรับเป็นคนไม่ค่อยเปิดให้ใครเข้ามาง่ายๆ ผมมีเพื่อนเยอะ แต่เพื่อนสนิทน้อยมาก เนื่องจากปิดตัวเอง กว่าจะเปิดใจให้ใครเข้ามาในเส้นรัศมีต้องใช้เวลานานเลยแหละ ทำไมถึงเปิดรับคนยาก ความจริงผมไม่ได้เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เกิดหรอก แต่เป็นตอนเข้าวงการ ในชีวิตโดนคนสนิททำให้เจ็บซ้ำน้ำใจ ไม่ว่าจะเรื่องเงิน คนรัก ที่โดนทิ่มแทงข้างหลัง เลยทำให้เราเป็นคนกลัวคน ดังนั้นวิธีปลอดภัยที่สุด ในเมื่อคนเป็นตัวปัญหาก็อย่าไปยุ่งกับคน คนเยอะเรื่องเยอะ เลยทำตัวให้ห่างๆ คน แต่ทุกวันนี้ดีขึ้นเยอะ แง้มให้คนเข้ามาบ้าง แต่ไม่ได้เปิดอ้าซ่า ที่เป็นแบบนี้อยากทำตัวโดดเด่นหรือเปล่า ประการแรก ไม่ได้คิดว่าจะทำตัวแตกต่างจากคนอื่นเลย ไม่ได้อยากเป็นเด็กแนว หรือว่าต้องคิดต่างคนอื่น อันนี้ไม่มีในหัว แค่รู้ว่าตัวเองชอบแบบนี้ ชอบอิสระในการใช้ชีวิตแบบนี้ ที่ได้ทำอะไรตามใจ ซึ่งก็หานิยามไม่ได้หรอกว่ามันคืออะไร กว่าจะมาเป็น โน้ส-อุดม อะไรในตัว "โน้ส" อุดม ที่ทำให้คนชอบ ผมถือว่าเป็นบุญมากที่คนเกิดชอบงานของผม เคยมีคนมาพูดกับผม ว่าพี่โน้สเป็นคนโชคดีนะ ที่ได้ทำในสิ่งที่ชอบแล้วได้ตังค์ด้วย รู้มั้ยมันไม่ได้เป็นกันได้ทุกคนนะ เออ...ผมก็กลับมาคิดว่าจริง เพราะงานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ คือสิ่งที่ชอบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นวาดรูป เขียนหนังสือ และเดี่ยวฯ นี่รักเลย เป็นสิ่งที่ทำได้ถนัดเลย ได้เล่าเรื่องที่ไปเจอมา แล้วเห็นคนขำไปกับมุกของเรา ถ้าวันหนึ่งแสดงเดี่ยวฯ แล้วคนไม่ขำกับสิ่งที่เล่าจะทำอย่างไร นั่นน่ะสิ...ไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเลย แต่ก็คงเหมือนโดนธรณีสูบมั้ง ผมคิดว่าผมน่าจะรู้ตัวเร็วนะ เพราะถ้าคนไม่ขำกับเรื่องที่ผมเล่า ผมคงไม่ดันทุรังทำต่อไปหรอก เมื่อถึงเวลานั้นผมคงรู้ตัว คนเรามันจะมีสัญชาตญาณบางอย่างบอกอยู่ ก็คงจะกันตัวเองไปทำอย่างอื่นแทน ผมไม่อายทำกินไม่หมิ่นเงินน้อย เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ ไม่จำเป็นจะต้องทำเดี่ยวฯ อย่างเดียว แต่ก็ขอทำเดี่ยวฯ 8 อีกสักทีก่อนนะ ทำไมเดี่ยวไมโครโฟนต้องล้อการเมืองทุกครั้ง การเมืองสำหรับผมมันก็เหมือนมวยปล้ำ ที่ไม่ได้ต่อสู้กันจริงๆ มันเป็นละคร ต่อยไม่ถูกกันด้วยซ้ำ แต่คนดันเคลิ้มไปจริงๆ กับมัน ฉะนั้นผมจึงไม่รู้สึกตื่นเต้นมากเวลาใครได้เข็มขัด คิดว่าที่มายืนอยู่ตรงนี้เป็นเพราะพรสวรร์ หรือพรแสวง ความขยันของผมนี่แหละ ที่ได้พาสิ่งต่างๆ ให้มันเกิดขึ้นกับตัวเองจนมาถึงทุกวันนี้ ในสมัยแรกที่ทำเดี่ยวก็เคยมีไปเล่นแล้วคนไม่ขำเหมือนกัน เลยทำให้เราได้เรียนรู้ศาสตร์แขนงนี้ ได้เรียนรู้จากความผิดพลาด สิ่งเหล่านั้นมันช่วยขัดเกลา ผมไม่ได้เป็นคนเล่าอะไรแล้วตลกทุกเรื่องหรอก ไม่ได้เป็นคนมหัศจรรย์ขนาดนั้น แต่ชอบหาประสบการณ์ ซึ่งประสบการณ์ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ผิดพลาด แค่พลาดน้อยกว่าคนไม่มีก็เท่านั้นเอง งานเขียนหนังสือจะออกเมื่อไร อยากออกเหมือนกัน ใจน่ะอยากเขียนแต่สังขารไม่เอื้อ สายตาไม่ค่อยไหว และไม่โกรธด้วยที่ถูกเรียกว่างานเขียนของผมเป็นขยะวรรณกรรม เพราะจริงๆ ไดอารี่มันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา แต่ละวันที่ผ่านมามันก็คือขยะ และผมก็เป็นคนขายขยะที่เก็บเอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาใช้ใหม่ ยอมรับเมื่อ 10 ปีก่อนโดนว่าอย่างนี้แล้วมีน้อยใจเหมือนกันนะ ซึ่งตั้งใจเอาไว้ ว่างานหนังสือของผม ถ้าเขียนเสร็จก็จะออกทันที เนื่องจากงานเขียนของผมมันได้เป็นต้นกำเนิดของการทำเดี่ยวไมโครโฟน อาชีพจริงๆ ของ โน้ส-อุดม คืออะไร ไม่รู้เหมือนกัน แต่เวลาไปต่างประเทศ ไปโรงพยาบาลแล้วโดนให้กรอกอาชีพ ก็จะบอกไปว่าขายบริการ นักวางแผนการตลาดให้ตัวเอง เป็นคนสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตัวเองเก่ง มีคนเขาวิจารณ์มาเหมือนกัน ว่าพี่โน้สเก่งการตลาดหายไปแล้ว รู้จังหวะการปรากฏตัว มีหมอดูหรือเปล่า ผมไม่เคยมีอะไรเลย และไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้งขนาดนั้นหรอก ใช้สัญชาตญาณล้วนๆ เราไม่เคยเรียนการตลาดมา ไม่ได้วางแผนอะไรเลย ก็ทำกันแบบบ้านๆ นี่แหละ อย่างเดี่ยวฯ คิดอยากทำตอนไหนมีเรื่องเล่าอยากเล่าแล้วก็ทำเลย และไม่เคยไปเรียนที่โรงเรียนทำเดี่ยวไมโครโฟนที่ไหนเลย อยากเรียนเหมือนกันนะ แต่ไม่มีโรงเรียนสอนจะไปเรียนต่างประเทศ ภาษาอังกฤษก็ไม่เก่ง ทุกวันนี้เรียนรู้จากความผิดพลาด โดยใช้ปัญญามากำกับ อย่างตอนที่ออกจากยุทธการขยับเหงือกใหม่ๆ แล้วมาทำเดี่ยวฯ ก็ล้มลุกคุกคลานเหมือนกัน แต่จะถอยหลังก็ไม่ได้ เพราะทุบหม้อข้าวตัวเองมาแล้ว ช่วงแรกๆ เคยมีขึ้นไปเล่าอะไรแล้วคนไม่ขำเหมือนกัน ความเจ็บปวดมันมีนะ ซึ่งเราก็ต้องรับหมดแหละ ไม่หล่อแต่ได้เป็นพระเอก หัวเราะ...นั่นน่ะสิ ทุกวันนี้ดูโปสเตอร์รูปตัวเองติดข้างหลังบ้าน ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นพระเอกได้ยังไงเหมือนกัน ส่วนประเด็นการเลือกบทหนังนั้น ใครก็ต้องเลือกบท ผมไม่ได้เป็นนักแสดงฮอลลีวู้ดที่จะเล่นได้ทุกบทบาท ความฝันสูงสุดอยากทำอะไร อยากเห็นตัวเองนั่งอยู่บ้านที่เชียงใหม่อากาศโปร่งๆ แล้วผมนั่งวาดรูปอยู่ มีหมาสักตัวหนึ่ง มีเสียงเพลงวิทยุเอเอ็ม หรือเอฟเอ็มก็ได้ ส่วนเหตุผลที่ชอบที่นั่นเป็นเพราะจังหวะชีวิตมันตรงกับผมดี ผมไม่รู้หรอกนะ ว่าเรียกจังหวะอะไรเป็นจังหวะอะไร เป็นจังหวะต๊ะต๊อนง้อนมั้ง อยู่กรุงเทพฯ มันก็เร็วไป อุปมาถ้าเป็นคู่เต้นรำเขาก็เต้นเหยียบเท้าผม แต่เชียงใหม่เข้ากันได้พอดี และไม่ว่าที่กรุงเทพฯ มีอะไรเชียงใหม่ก็มีอย่างนั้น แต่ที่เข้ามากรุงเทพฯ เนื่องจากงานมันอยู่ที่นี่ และแม่ก็อยู่ที่กรุงเทพฯ ด้วย เลยไปๆ มาๆ แต่สุดท้ายบั้นปลายผมก็อยากไปใช้ชีวิต และไปตายที่เชียงใหม่แน่ๆ เคยชวนให้แม่ไปอยู่ที่นั่นเหมือนกัน แต่ท่านไม่ไปบอกว่าเพื่อนอยู่ที่นี่ ก็เลยตามใจเพราะแม่ทั้งคน ทุกวันนี้มองว่าตัวเองดังหรือเปล่า จะไปกล้าตอบได้ไง ผมรู้สึกว่าตัวเองดังตอนอยู่ยุทธการขยับเหงือก จากเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง เป็นตัวประกอบ แล้วมาทำพิธีกรก็กลายเป็นที่รู้จักมีคนทัก ส่วนทุกวันนี้ที่เป็นอยู่มันเป็นอะไรที่เกินคาดคิดเยอะ กับหนังเรื่องล่าสุด อีติ๋มตายแน่ นอกจากแสดงแล้ว ได้ข่าวว่าเขียนบทเอง เป็นการเขียนบทหนังครั้งแรก ความจริงแล้ว จะทำหนังร่วมกับต้อม (ยุทธเลิศ สิปปภาค) ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว แต่จังหวะเวลาไม่ตรงกัน ตอนนี้ว่าง ต้อมก็เลยมาชวน ตอนแรกก็งงจะทำดีหรือไม่ สุดท้ายทำก็ได้ ยอมรับว่ายากกว่าการทำเดี่ยวฯ เนื่องจากหนังจะต้องมีระบบของนายทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เดี่ยวฯ ทำอิสระ ตามใจเรา พอจะมีเดี่ยวทีไรจะต้องมีงานหนังควบคู่กันมาทุกครั้ง ไม่เคยสังเกตตัวเองนะ อาจเป็นช่วงจังหวะเวลาพอดี งงเหมือนกัน ก็มีคนบอกแบบนี้ แต่ผมก็ไม่เคยคิดเรื่องนี้นะ ไม่เคยแพลน ว่ามีเดี่ยวฯ แล้วจะต้องเล่นหรือทำหนัง


"โน้ส" กับความรัก จะแต่งงานกับ "ปลา" อัจฉรา บุรารักษ์ เจ้าของร้านไอศกรีม "iberry" เมื่อไร กับปลาก็ดี ถ้าขืนตอบว่าคนนี้ไม่ใช่เขาต้องมาตีกบาลแน่ๆ ส่วนเรื่องแต่งงานเราค่อยเป็นค่อยไป ตอนนี้คบกันมา 3 ปีแล้ว มันได้ผ่านช่วงโปรโมชั่นมาแล้ว คราวนี้เป็นช่วงโทรจริง ก็ต้องดูกัน ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น เนื่องจากมันเป็นช่วงที่ตัวจริงของแต่ละคนออกมาทั้งเราและเขา อันนี้แหละชีวิตจริง ก็ต้องดูกันยาวๆ ไม่เชื่อเสียงเชียร์ให้รีบเเต่ง เพราะคนที่อยู่คือผม ตอนนี้เราดูเขา เขาดูเราไปก่อน มีภาพหลุดอี๋อ๋อกับสาวอื่นที่ไม่ใช่ "ปลา" อันนั้นอย่าไปถือสาเลย ถ่ายกันเล่นๆ ถ้าจะเอารูปพวกนั้นมาพูดมีเยอะ เป็นพันๆ รูป แทบทุกวันนี้ไม่ต้องเดือดร้อน ผมเป็นคนเจ้าชู้นะ ไม่ได้หยุด แต่มันจะช้าไปเองเป็นช่วงของผู้ชาย ที่ตอนเริ่มแตกหนุ่ม มันก็จะมีดีกรีของมัน แต่ถึงทุกวันนี้อยากเจ้าชู้ สังขารก็ไม่เอื้อ สามทุ่มก็ง่วงแล้ว จะไปเต้นหลีสาว เพลงก็คนละรุ่น สภาพแวดล้อมจะเป็นตัวขัดเกลาเราไปเอง ตอนนี้จะให้ผมไปมีแฟนเด็ก เราจะคุยกันคนละภาษาโต้ตอบกันไม่รู้เรื่อง น้อยใจหรือเปล่าโดนว่าขี้เหร่แต่ชอบมีแฟนสวย (หัวเราะ)...ไม่เลย จะไปรู้สึกอะไร ก็จริงอย่างที่เขาพูด ก็เขาพูดถูกแล้ว ทุกวันนี้ส่องกระจกก็รู้ตัวเองดี ว่าตัวเองเป็นยังไง เขาแหละ..."โน้ส" อุดม ประวัติ โน้ส-อุดม วัน เดือน ปีเกิด...1 กันยายน 2511 พี่น้อง...3 คน บ้านเกิด...ชลบุรี งานแรก...เป็นคนเขียนการ์ตูนที่ชัยพฤกษ์ ผลงานสร้างชื่อเสียง...ยุทธการขยับเหงือก เดี่ยวไมโครโฟน รางวัล...ได้รางวัล "คม ชัด ลึกอวอร์ด" ปี 2549 นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากหนังโคตรรักเอ็งเลย

เปิดหมวกล้วงชีวิต...คิดแบบ โน้ส-อุดม

เพลงพัดลม_อุดม_แต้พานิช



ตัดมาจาก คอนเสิร์ตสินเจริญวงแตก
วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม 2552

โรงภาพยนตร์ สกาล่า
เพลงพัดลม_อุดม_แต้พานิช


เพลงพัดลม_อุดม_แต้พานิช
เพลงพัดลม อุดม แต้พานิช ปะทะ พี่น้องสินเจริญ
กับมาอีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไปถึง 12 ปีเต็ม

คลิป ตีสิบ โน๊ต อุดม เมื่อ 15 ปีที่แล้ว (พ.ศ.2536)

คลิป ตีสิบ โน๊ต อุดม เมื่อ 15 ปีที่แล้ว (พ.ศ.2536)

ตีสิบ 11-3-51 โน๊ต อุดม เมื่อ 15 ปีที่แล้ว - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่

คลิป ตีสิบ โน๊ต อุดม เมื่อ 15 ปีที่แล้ว (พ.ศ.2536)

Modern Dog - ติ๋ม [ Dtim ]..โน้สแจม?

Modern Dog - ติ๋ม [ Dtim ]..โน้สแจม?


Modern Dog - ติ๋ม [ Dtim ]..โน้สแจม?

เพลง อุแว๊คุณแม่ อุดม แต้พานิช โน้ส

เพลง อุแว๊คุณแม่ อุดม แต้พานิช โน้ส



เพลง อุแว๊คุณแม่ อุดม แต้พานิช โน้ส

สิ่งที่เรียนรู้เมื่ออายุปูนนี้ของ โน้ส อุดม แต้พานิช

สิ่งที่เรียนรู้เมื่ออายุปูนนี้ของ

โน้สอุดม แต้พานิช



ในโลกใบนี้มีสิ่งที่เราไม่รู้อีกมากมาย แต่บางครั้งเราก็มองข้ามเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวเราไป วันนี้
นมอุโด้ส จะมาบอกถึง สิ่งที่เรียนรู้เมื่ออายุปูนนี้ รับรอง สุหนัดแน่ๆ!!




1. มนุษย์ต้องการสิ่งที่ตนเองไม่มี


2. เวลาที่เราวิ่งมารับโทรศัพท์จากที่ไกลๆ เมื่อถึงโทรศัพท์ เสียงมันมักจะหยุด เราจะช้าไป 1 จังหวะเสมอ


3. ถ้าแอบรักใคร อย่าฝากใครไปบอก บอกด้วยตัวเองจะดีกว่า


4. เวลาสั่งอาหารไว้นานแล้วยังไม่ได้สักที ให้พูดว่าไม่เอา จะได้เร็ว


5. ถ้าเรียกเก็บเงินแล้วไม่มีใครมาเก็บเสียที ให้ลุกขึ้นทำท่าจะกลับทั้งโต๊ะ จะมีพนักงานพุ่งมาทันที


6. ปลูกต้นลั่นทมไว้หน้าบ้าน ไม่เกี่ยวอะไรกับความทุกข์ระทมของตัวเราเลย


7. ระวังคนขายโรตี ที่เพิ่งเดินออกมาจากป่าละเมาะ, พุ่มไม้, ซอกตึก อย่าตัดสินใจซื้อจนกว่าเขาจะล้างมือ


8. ไม่มีสัจจะในร้านตัดเสื้อ


9. ระวังคนที่แสดงออกว่าเป็นคนดีมากๆ


10. อย่าซื้อทุเรียนมาปอกเอง


11. หนังสือดี คือหนังสือที่เราชอบอ่าน, หนังดีคือ หนังที่เราชอบดู


12. อยากให้คนอื่นรู้เรื่องที่เรานินทามากๆ อย่าลืมย้ำบ่อยๆ ว่าอย่าบอกใครนะ


13. อย่าทิ้งกระดาษชำระไว้ในชามก๋วยเตี๋ยว คนล้างจะเสียความรู้สึก


14. เรียกยามว่าซีเคียวรีตี้ การ์ด ยามจะตั้งใจโบกรถ


15. อย่าซื้ออะไรที่ต้องเอามาซ่อมต่อ


16. รถในเมืองไทยพวงมาลัยอยู่ทางขวา แต่ฝาน้ำมันไม่อยู่ขวาเสมอไป


17. ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนไม่ต้องเอายาสีฟันไปก็ได้ ยังไงเพื่อนต้องมี


18. ตลาด อ.ต.ก. มาจากคำว่า เอเวอรี่ติง เกินราคา


19. เวลาดูหนังโรง ควรจำว่ากระปุกน้ำอยู่ด้านไหน


20. ตัดผมวันพุธได้ ไม่บาป


21. คนไม่กินเนื้อ ไม่ได้แปลว่าเป็นคนดีเสมอไป


22. เวลาบ้วนน้ำยาลิสเตอรีนออกจากปาก ให้หลับตาด้วย


23. ปูอัด มันทำจากปลา


24. กินก๋วยเตี๋ยวจากตะเกียบไม้อร่อยกว่า


25. อย่าไปจ่ายตลาดเวลาหิว เราจะซื้อมาเยอะเกินจำเป็นเสมอ


26. ในโลกนี้จะชอบมีคนมาทักอยู่ 2 ประเภทเท่านั้น ประเภทแรก อ้วนขึ้นนะ กับประเภทที่ 2 ผอมลงนะ ไม่มีใครเข้ามาทักว่าปกติดีนี่ไปทำอะไรมา


27. คนที่เอาหมวกตำรวจ หรือชุดตำรวจแขวนไว้หลังรถมิใช่เพราะบ้านเค้าไม่มีตู้ เค้าไม่ได้ลืม เค้าแค่กลัวคนไม่รู้ว่าเขาทำอาชีพอะไร


28. คนที่มีรถทะเบียนเลขเดียวเรียงติดกันหลายๆ ตัว เป็นคนธรรมดาเหมือนกับเรา


29. คนที่มีความรู้มากๆ เขามักจะใช้ความรู้ขังจินตนาการ


30. ฟู่ฟ่าเดี๋ยวก็วาย เรียบง่ายอยู่ได้นาน


31. จงอย่าอิจฉาคนอื่น แต่จงใช้ชีวิตให้คนอื่นอิจฉา


32. เวลาที่เปิดหนังสือให้เพื่อนดู หน้าที่ตัวเองพูดถึงมักจะหาไม่เจอ


33. ขนมและน้ำในโรงหนัง จะแพงกว่าข้างนอก


34. ห้องน้ำผู้หญิง ผู้ชายเข้าไปดูเป็นพวกโรคจิต, ห้องน้ำผู้ชาย ผู้หญิงเข้ามาดูเป็นแม่บ้าน


35. เวลารถติด เลนอื่นมักไปได้เร็วกว่าเลนเราเสมอ


36. ถ้าเราขับรถไม่ทันไฟเขียวเป็นคันสุดท้าย ให้คิดว่าเดี๋ยวเราจะได้ไปเป็นคันแรก


37. ถ้ามีการแนะนำตัวว่า นี่เพื่อนฉัน หมายความว่า แฟนฉัน


38. ถ้ามีการแนะนำตัวว่า นี่แฟนฉัน หมายความว่า ผัว/เมียฉัน





อ่านแล้วอย่า สะหวีหวี้วี คนเดียว ส่งต่อให้เพื่อนช่วยกันฮาด้วยนะ

อุดม แต้พานิช

เคดิต:วิกิพีเดีย
อุดม แต้พานิช


อุดม แต้พานิช
อุดม แต้พานิช
ชื่อเล่น โน้ส
เกิด 1 กันยายน พ.ศ. 2511 (อายุ 41 ปี)
จังหวัดชลบุรี
อาชีพ นักแสดง นักเขียน comadian สร้างงานศิลปะ
ปีที่แสดง พ.ศ. 2532 - ปัจจุบัน


อุดม แต้พานิช หรือ โน้ส เกิดเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2511 ที่จังหวัดชลบุรี เป็นบุตรของนางทองสุข แต้พานิช มีพี่น้อง 3 คน เป็นคนกลาง ไม่สำเร็จการศึกษาจากแผนกวิชาพาณิชยศิลป์ วิทยาลัยเพาะช่าง

เริ่มงานแรกเป็นคนเขียนการ์ตูนที่ชัยพฤกษ์ ทำได้สองเดือนก็ลาออกด้วยเหตุผลที่มันไม่ตรงกับใจเท่าไร เมื่อได้อ่าน ไปยาลใหญ่ ฉบับแรกบนแผงรู้สึกถูกใจในบุคลิกของหนังสือ อยากร่วมงานด้วย ครั้งแรกไปสมัคร TRY OUT เป็นนักแสดงละครของศิษย์สะดือ ด้วยลูกตื้อและบุคลิกที่ไม่เหมือนใคร จึงได้ร่วมงานกับศิษย์สะดือสมใจ ความรักของมาลัยในห้องไอซียู เป็นละครเรื่องแรกที่เล่น ได้รับบทเป็นคนแก่ในโรงพยาบาล จบจากละครก็ก้าวเข้าสู่ถนนหนังสือ ในตำแหน่งฝ่ายศิลปของไปยาลใหญ่

ที่ไปยาลใหญ่ถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต สังคมในไปยาลใหญ่ล้วนเป็นนักอ่านตัวยงด้วยกันทั้งนั้น อุดมได้รับอิทธิพลนี้มาและได้มาค้นพบโลกของตัวเองอีกโลกหนึ่งที่นี่ คือโลกของการอ่าน แล้วยังค้นพบความสามารถในการเขียนหนังสือ เมื่ออุดมอ่านหนังสือมากๆ จึงเกิดแรงใจอยากเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง ครั้งหนึ่งในชีวิตแตงโมปั่น งานเขียนเรื่องแรกแจ้งเกิดในสนามไปยาลใหญ่นั่นเอง มี ศุ บุญเลี้ยงเป็นบรรณาธิการ หลังจากงานได้ตีพิมพ์ อุดม เริ่มรับผิดชอบคอลัมน์ต่างๆ ในไปยาลใหญ่ โดยใช้นามปากกาว่า "โน้สหน้ามึน หลานเจ๊นี้ขายผลไม้" ควบคู่ตำแหน่งฝ่ายศิลปของหนังสือ ใครที่เป็นแฟนไปยาลใหญ่คงคุ้นเคยและติดอกติดใจกับเกมส์กวนๆ ในคอลัมน์ ‘สารภีมีดีให้’ อุดมเป็นสารภีในช่วงท้ายของหนังสือก่อนที่ไปยาลใหญ่จะปิดตัวเองลง

อุดมพาความสามารถเข้าสู่เส้นทางสายบันเทิงโดยเริ่มจากเป็นตัวประกอบในรายการวิก 07 ของ เจเอสแอล และเล่นเกมส์รายการจุดเดือด ทางผู้ใหญ่ในเจเอสแอลประทับใจลีลาจึงชักชวนมาร่วมงานด้วยในรายการ ยุทธการขยับเหงือก ซึ่งเป็นรายการ Comedian Show ที่มีความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของช่อง 5 ในยุคนั้น จึงทำให้อุดมได้แจ้งเกิดในวงการบันเทิงอย่าง เต็มตัวในชื่อ เสนาฯ โน้ส และต่อมาในยุคอดีตนั้นเคยแสดงเป็นตัวปริศนาในภาพ VTR กับคุณหมี ปลื้มที่ใช้ชื่อว่า "ปริศนา อ้วน-ผอม" ในรายการชิงร้อยชิงล้าน ของบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ 17 มกราคม 2533 - 29 มกราคม 2535 ทางช่อง 7 หลังจากความสำเร็จในครั้งแรก อุดม แต้พานิช ได้ตัดสินใจแยกตัวออกมาจากรายการยุทธการขยับเหงือก และได้สร้างปรากฏการณ์ขึ้นในเมืองไทย นั่นก็คือ การพูดตลกคนเดียวบนเวที ทำให้คนไทย ได้รู้จักคำว่า Stand Up Comedy หรือ ในชื่อไทย เดี่ยวไมโครโฟน เป็นครั้งแรก

การแสดงเดี่ยวไมโครโฟนครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2538 และนี่ถือเป็นการเริ่มต้น ส่งผลให้ อุดม แต้พานิช ได้กลายเป็นตลกเดี่ยวชั้นแนวหน้าของประเทศ[ต้องการแหล่งอ้างอิง] จนเกิด เดี่ยว 2, 3, 4, 5, 6 และ 7 ซึ่งมีคนรอซื้อบัตรและเข้าดูเป็นจำนวนมาก



การแสดงเดี่ยวไมโครโฟน


ครั้งที่ 1 (เดี่ยวไมโครโฟน) 2538 เปิดการแสดงทั้งหมด 3 รอบ ทำการแสดงที่ หอประชุมเมืองไทยประกันชีวิต ความจุ 450 ที่นั่ง
ครั้งที่ 2 (อุดม โชว์ห่วย) 2539 เปิดการแสดงทั้งหมด 14 รอบ ทำการแสดงที่ หอประชุมเมืองไทยประกันชีวิต ความจุ 450 ที่นั่ง
ครั้งที่ 3 (อุดม การช่าง) 2540 เปิดการแสดงทั้งหมด 22 รอบ ทำการแสดงที่ อิมพีเรียล ลาดพร้าว
ครั้งที่ 4 (เดี่ยว 4) 2542 เปิดการแสดงทั้งหมด 28 รอบ ทำการแสดงที่ เดอะมอลล์ บางกะปิ
ครั้งที่ 5 (ฉายเดี่ยว) 2544 เปิดการแสดงทั้งหมด 30 รอบ ทำการแสดงที่ โรงภาพยนตร์สกาล่า ความจุ 1,000 ที่นั่ง
ครั้งที่ 6 (ตูดหมึก) 2546 เปิดการแสดงทั้งหมด 43 รอบ ทำการแสดงที่ โรงภาพยนตร์สกาล่า ความจุ 1,000 ที่นั่ง
ครั้งที่ 7 (เดี่ยว 7) 2551 เปิดการแสดงทั้งหมด 41 รอบ (ไทย 39 รอบ,ซิดนีย์ 2 รอบ) ทำการแสดงที่ โรงภาพยนตร์สกาล่า ความจุ 1,000 ที่นั่ง
ครั้งที่ 7.5 (เชียงใหม่ม่วนขนาด) 2551 เปิดการแสดงทั้งหมด 3 รอบ ทำการแสดงที่ กาดสวนแก้ว เชียงใหม่ ความจุ 2,000 ที่นั่ง
ครั้งที่ 8 (เดี่ยว 8) ประมาณ ต้นปี 2553


งานเขียน


ทางด้านงานเขียนหนังสือ อุดม แต้พานิช เป็นคนหนึ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเขียนขายดี (Best Seller) ปัจจุบันนี้หนังสือของ อุดม แต้พานิช มีถึง 20 เล่ม ได้แก่

โทษฐานที่รู้จักกัน (พิมพ์ซ้ำ 33 ครั้ง)
เดี่ยวไมโครโฟน 1 (พิมพ์ซ้ำ 11 ครั้ง)
หนังสือโป๊ (พิมพ์ซ้ำ 28 ครั้ง)
เดี่ยวไมโครโฟนโชว์ห่วย (พิมพ์ซ้ำ 12 ครั้ง)
โน้ตบุ๊ค (พิมพ์ซ้ำ 7 ครั้ง)
รวมมิตรแต้พานิช (พิมพ์ซ้ำ 21 ครั้ง)
ก้นกล่อง (พิมพ์ซ้ำ 5 ครั้ง)
เดี่ยว 4 (พิมพ์ซ้ำ 12 ครั้ง)
GU 1 (Garbage of Udom) (พิมพ์ซ้ำ 5 ครั้ง)
GU 2 (Garbage of Udom) (พิมพ์ซ้ำ 5 ครั้ง)
GU 3 (Garbage of Udom) (พิมพ์ซ้ำ 5 ครั้ง)
GU 123 (Garbage of Udom) (พิมพ์ซ้ำ 10 ครั้ง)
ฉายเดี่ยว (พิมพ์ซ้ำ 3 ครั้ง)
หนังสือโป๊xxx (「エロ本」ฉบับญี่ปุ่น) ISBN 9742725543 (พิมพ์ซ้ำ 3 ครั้ง)
I don’t know (พิมพ์ซ้ำ 1 ครั้ง)
a dom นิตยสารแนวล้อเลียนเล่มแรกของเมืองไทย (พิมพ์ซ้ำ 3 ครั้ง)
ตูดหมึก (พิมพ์ซ้ำ 3 ครั้ง)
GU 123 (ฉบับญี่ปุ่น) ISBN 9749340043 (พิมพ์ซ้ำ 3 ครั้ง)
a dom 2 (พิมพ์ซ้ำ 8 ครั้ง)
Domcumentary ในอีกมุมมองหนึ่งของชีวิตที่หลายคนอาจยังไม่รู้ อุดม ในฐานะของนักวาด และการประดิษฐ์สิ่งของที่คนอื่นอาจมองว่าเป็นขยะแต่กลับเป็นเรื่องท้าทายของเขาที่จะชุบขยะเหล่านั้นให้มีชีวิตจนเกิดเป็นผลงานศิลปะอันสวยงาม หนังสือเล่มนี้จึงรวบรวมผลงานหลากหลายของอุดมที่ชีวิตไม่ได้มีแต่ตลกด้านเดียว
นอกจากจะเป็นนักแสดงตลก และนักเขียนแล้ว อุดม แต้พานิช ยังมีผลงานทาง การแสดงภาพยนตร์เรื่อง กล่อง โดยรับบทเป็นพระเอกซึ่งได้รับค่าตัวแพงที่สุดในประเทศไทย และยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ถ่ายโฆษณาผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ HELLO 1800 และวิทยุติดตามตัวEDDY AND THE GANG ผลงานต่างๆ ที่อุดมได้สร้างสรรค์ออกมานั้น ทำให้สื่อมวลชน หลายแขนงได้ยกย่อง อุดม แต้พานิช ถือเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งที่มีส่วนในการสร้างสรรค์สังคม




ปี พ.ศ. 2540 ได้รับเลือกเป็น บุคคลแห่งปีจากคอลัมน์จุดประกายหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ปี พ.ศ. 2542 หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น : Special issue ได้รับเลือกให้อุดม แต้พานิช ได้เป็น 1 ใน 100 บุคคลแห่งศตวรรษในสาขาอาชีพการแสดง และในปีเดียวกันนั้นเอง นิตยสาร Hi Class ได้มีการจัด อุดม แต้พานิช ให้เป็น 1 ใน 50 ผู้มีอิทธิพลทางความคิดที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย
ปี พ.ศ. 2549 ได้รับรางวัล คมชัดลึกอวอร์ด 2549 นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม อุดม แต้พานิช จากโคตรรักเอ็งเลย


ผลงานนิทรรศการ


ART? - 2541 จัดที่ ร้านหน้าพระลาน กรุงเทพฯ
ยาระบาย - 2542 จัดที่ อะเบาท์ คาเฟ่ กรุงเทพฯ
Udom on Canvas - 2543 จัดที่ รูม เซอร์วิส กรุงเทพฯ
Voodoo Gudo - 2544 จัดที่ โต๊ะคิม กรุงเทพฯ
The Painting I Like - 2545 กองดี แกลเลอรี่ เชียงใหม่
Art Against War - 2546 จัดที่ อุโมงค์ ศิลปะธรรม เชียงใหม่
Free-dom - 2547 จัดที่ เอกาแกลเลอรี่ เชียงใหม่
Yokohama Triennale 2005 - 2548 จัดที่ ท่าเรือยามาชิตะ โยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น
Domcumentary - 2549 จัดที่ เจ แกลเลอรี่ เจ-อเวนิว สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ 15) กรุงเทพฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-31 กรกฎาคม พ.ศ. 2549
PLAT FORM new media lab - ผลงานชื่อ Dark Conversation เป็นงานในรูปแบบอินเทอร์แอ็คทีฟ ซึ่งจัดทำร่วมกับ พรทวีศักดิ์ ริมสกุล จัดที่ หอศิลปวิทยนิทรรศน์ สถาบันวิทยบริการ (หอสมุดกลาง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน - 16 ธันวาคม 2549
Project Zero - จัดที่ ลานหน้า ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 - 14 มิถุนายน 2550
Myspace - FAT FESTIVEL#7 จัดที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2-3 เมืองทองธานี วันที่ 10-11 พฤศจิกายน 2550
CHANGE - 2551 จัดที่ศูนย์ศิลปะฮอฟอาร์ท (รัชดา 19) กรุงเทพฯ
No Wall : Art and Friendship - 2551 จัดที่โรงพิมพ์คุรุสภาเก่า กรุงเทพฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-30 สิงหาคม 2551
ขี้เหร่เนะ - 2551 จัดที่ เจ แกลลอรี่ เจ-อเวนิว สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ 15) กรุงเทพฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23ตุลาคม - 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
แร็พเปอร์ - 2551 จัดที่ แกลลอเรี่ยน เอ็น ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 พฤศจิกายน - 23 ธันวาคม พ.ศ. 2551


งานแสดงละครเวที


ความรักของมาลัยในห้องไอซียู
บริษัทกำจัดฝันจำกัด
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยเงิน
บ่งหนามออกแล้วบอกรัก - 2535
ชายกลาง โศกนาฏกรรมในจังหวะแทงโก้ - 2550
[แก้] งานแสดงภาพยนตร์
ขอชื่อ สุธี สามสี่ชาติ - 2532
โตแล้วต้องโต๋ - 2535
กล่อง - 2541
โคตรรักเอ็งเลย - 2549
เมล์นรก หมวยยกล้อ - 2550
อีติ๋มตายแน่ (เขียนบทและแสดงนำ) - 2551

8.10.52

สินเจริญ เชิญเเขก ตอน โน้ส อุดม เดี่ยว7 live in Sydney

สินเจริญ เชิญเเขก ตอน โน้ส อุดม เดี่ยว7 live in Sydney 1/5

สินเจริญ เชิญเเขก ตอน โน้ส อุดม เดี่ยว7 live in Sydney 2/5

สินเจริญ เชิญเเขก ตอน โน้ส อุดม เดี่ยว7 live in Sydney 3/5

สินเจริญ เชิญเเขก ตอน โน้ส อุดม เดี่ยว7 live in Sydney 4/5

สินเจริญ เชิญเเขก ตอน โน้ส อุดม เดี่ยว7 live in Sydney 5/5

โน๊ต อุดม สนทนา ใน ตีสิบ ฮามากๆ (ครั้งที่ 2)

โน๊ต อุดม สนทนา ใน ตีสิบ ฮามากๆ (ครั้งที่ 2)
โน๊ต อุดม สนทนา ใน ตีสิบ ฮามากๆ part1/4

โน๊ต อุดม สนทนา ใน ตีสิบ ฮามากๆ part2/4

โน๊ต อุดม สนทนา ใน ตีสิบ ฮามากๆ part3/4

โน๊ต อุดม สนทนา ใน ตีสิบ ฮามากๆ part4/4

ตีสิบ - โน้ส อุดม แต้พานิช

ตีสิบ - โน้ส อุดม แต้พานิช
ตีสิบ - โน้ส อุดม แต้พานิช 1/9

ตีสิบ - โน้ส อุดม แต้พานิช 2/9

ตีสิบ - โน้ส อุดม แต้พานิช 3/9

ตีสิบ - โน้ส อุดม แต้พานิช 4/9

ตีสิบ - โน้ส อุดม แต้พานิช 5/9

ตีสิบ - โน้ส อุดม แต้พานิช 6/9

ตีสิบ - โน้ส อุดม แต้พานิช 7/9

ตีสิบ - โน้ส อุดม แต้พานิช 8/9

ตีสิบ - โน้ส อุดม แต้พานิช 9/9

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม(ช่วงที่ 2-จบ)

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม(ช่วงที่ 2-จบ)
เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 11/21

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 12/21

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 13/21

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 14/21

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 15/21

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 16/21

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 17/21

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 18/21

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 19/21

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 20/21

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 21/21

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม(ช่วงที่ 1)

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 1/21

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 2/21

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 3/21

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 4/21

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 5/21

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 6/21

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 7/21

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 8/21

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 9/21

เดี่ยว7.5 โน้ตอุดม 10/21

เรื่อง อี ติ๋มตายแน่ E Tim Tai Nae

ดูหนังฟรีเรื่องอี ติ๋มตายแน่E Tim Tai Nae
E Tim Tai Nae 1/12

ดูหนังฟรีเรื่องอี ติ๋มตายแน่E Tim Tai Nae

E Tim Tai Nae 2/12

ดูหนังฟรีเรื่องอี ติ๋มตายแน่E Tim Tai Nae

E Tim Tai Nae 3/12

ดูหนังฟรีเรื่องอี ติ๋มตายแน่E Tim Tai Nae

E Tim Tai Nae 4/12

ดูหนังฟรีเรื่องอี ติ๋มตายแน่E Tim Tai Nae

E Tim Tai Nae 5/12

ดูหนังฟรีเรื่องอี ติ๋มตายแน่E Tim Tai Nae

E Tim Tai Nae 6/12

ดูหนังฟรีเรื่องอี ติ๋มตายแน่E Tim Tai Nae

E Tim Tai Nae 7/12

ดูหนังฟรีเรื่องอี ติ๋มตายแน่E Tim Tai Nae

E Tim Tai Nae 8/12

ดูหนังฟรีเรื่องอี ติ๋มตายแน่E Tim Tai Nae

E Tim Tai Nae 9/12

ดูหนังฟรีเรื่องอี ติ๋มตายแน่E Tim Tai Nae

E Tim Tai Nae 10/12

ดูหนังฟรีเรื่องอี ติ๋มตายแน่E Tim Tai Nae

E Tim Tai Nae 11/12

ดูหนังฟรีเรื่องอี ติ๋มตายแน่E Tim Tai Nae

E Tim Tai Nae 12/12 End

ดูหนังฟรีเรื่องอี ติ๋มตายแน่E Tim Tai Nae

MV ภาพ ประกอบเพลง ตงมง เหมียวขื่อ

MV ภาพ ประกอบเพลง ตงมง เหมียวขื่อ

เดี่ยวไมโครโฟน 7(ช่วงที่ 3-จบ)

เดี่ยวไมโครโฟน 7-21

เดี่ยวไมโครโฟน 7-22

เดี่ยวไมโครโฟน 7-23

เดี่ยวไมโครโฟน 7-24

เดี่ยวไมโครโฟน 7-25

เดี่ยวไมโครโฟน 7-26

เดี่ยวไมโครโฟน 7-27

เดี่ยวไมโครโฟน 7-28

เดี่ยวไมโครโฟน 7-29(จบ)

เดี่ยวไมโครโฟน 7(ช่วงที่ 2)

เดี่ยวไมโครโฟน 7-11

เดี่ยวไมโครโฟน 7-12

เดี่ยวไมโครโฟน 7-13

เดี่ยวไมโครโฟน 7-14

เดี่ยวไมโครโฟน 7-15

เดี่ยวไมโครโฟน 7-16

เดี่ยวไมโครโฟน 7-17

เดี่ยวไมโครโฟน 7-18

เดี่ยวไมโครโฟน 7-19

เดี่ยวไมโครโฟน 7-20

เดี่ยวไมโครโฟน 7(ช่วงที่ 1)

เดี่ยวไมโครโฟน 7(ช่วงที่ 1)
เดี่ยวไมโครโฟน 7-01

เดี่ยวไมโครโฟน 7-02

เดี่ยวไมโครโฟน 7-03

เดี่ยวไมโครโฟน 7-04

เดี่ยวไมโครโฟน 7-05

เดี่ยวไมโครโฟน 7-06

เดี่ยวไมโครโฟน 7-07

เดี่ยวไมโครโฟน 7-08

เดี่ยวไมโครโฟน 7-09

เดี่ยวไมโครโฟน 7-10

เดี่ยว 6 โน้ตอุดม(ช่วงที่ 2-จบ )

เดี่ยว6 โน้ตอุดม 11/19

เดี่ยว6 โน้ตอุดม 12/19

เดี่ยว6 โน้ตอุดม 13/19

เดี่ยว6 โน้ตอุดม 14/19

เดี่ยว6 โน้ตอุดม 15/19

เดี่ยว6 โน้ตอุดม 16/19

เดี่ยว6 โน้ตอุดม 17/19

เดี่ยว6 โน้ตอุดม 18/19

เดี่ยว6 โน้ตอุดม 19/19

เดี่ยว 6 โน้ตอุดม(ช่วงที่ 1 )

เดี่ยว6 โน้ตอุดม 1/19

เดี่ยว6 โน้ตอุดม 2/19

เดี่ยว6 โน้ตอุดม 3/19

เดี่ยว6 โน้ตอุดม 4/19

เดี่ยว6 โน้ตอุดม 5/19

เดี่ยว6 โน้ตอุดม 6/19

เดี่ยว6 โน้ตอุดม 7/19

เดี่ยว6 โน้ตอุดม 8/19

เดี่ยว6 โน้ตอุดม 9/19

เดี่ยว6 โน้ตอุดม 10/19

เดี่ยว 5 โน้ตอุดม(ช่วงที่ 2-จบ )

เดี่ยว 5 โน้ตอุดม(ช่วงที่ 2 )
เดี่ยว5 โน้ตอุดม 11/21

เดี่ยว5 โน้ตอุดม 12/21

เดี่ยว5 โน้ตอุดม 13/21

เดี่ยว5 โน้ตอุดม 14/21

เดี่ยว5 โน้ตอุดม 15/21

เดี่ยว5 โน้ตอุดม 16/21

เดี่ยว5 โน้ตอุดม 17/21

เดี่ยว5 โน้ตอุดม 18/21

เดี่ยว5 โน้ตอุดม 19/21

เดี่ยว5 โน้ตอุดม 20/21

เดี่ยว5 โน๊ตอุดม 21/21

เดี่ยว 5 โน้ตอุดม(ช่วงที่ 2 )